Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78580
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorOra-orn Poocharoen-
dc.contributor.authorPushpanathan Sundramen_US
dc.date.accessioned2023-07-25T14:23:33Z-
dc.date.available2023-07-25T14:23:33Z-
dc.date.issued2022-12-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/78580-
dc.description.abstractThe research aims to study the Association of Southeast Asian Nations (ASEAN) as a network governance (NG) and establish an alternative framework to understand its policymaking and performance taking into account its norms and principles (underpinnings). Mainstream international relations (IR) and western theories have partly downplayed these underpinnings and attributed ASEAN's failure to them. These theories, driven by the EU as a model for regional integration, often neglect the rationale for ASEAN's light institutionalisation by positioning institutional evolution as a solution to ASEAN's problems. The thesis, therefore, attempts to demystify the western theorisation of ASEAN. It shows that ASEAN is a functioning, legitimate and hybrid intergovernmental organisation with NG at the heart of its policymaking and tiered structures at the front with a different trajectory toward regional integration. Qualitative analysis was undertaken through structured interviews and surveys to examine one case study from each of the three ASEAN communities. Policy network theories were used for the analysis and evaluation. A significant finding of the thesis is that ASEAN operates as a NG at its centre when it mainly involves the region's strategic, political and security interests. The primary purposes are to safeguard ASEAN's centrality, regional resilience and the role of ASEAN as an honest broker in regional and international affairs. Similarly, in the economic and socio cultural communities, the objectives extend beyond wealth creation and meeting society's needs respectively to protect the primary purposes and foster mutual interdependence among member states. They enable ASEAN's relevance as a pivot in the Asia Pacific to the major powers and neighbouring countries. Regarding the role of non-state actors (NSAs) in regional integration, it is more prominent in the economic and social cultural communities and less in the political security community, where the state actors' position is dominant. Despite this, NSAs can still play a role in specific political and security areas. However, the limited role accorded to NSAs by ASEAN impedes their potential contribution to regional integration. There are prospects for dynamic policy outcomes if NSAs participate more, provided there is a convergence in the agendas and a narrowing of mutual distrust between state and non-state actors. The thesis concludes that the hybrid nature, underpinnings (norms and principles) and patterned relations among all actors must be considered when assessing ASEAN's policymaking for a more nuanced and objective evaluation of the Association's performance.en_US
dc.language.isoenen_US
dc.publisherChiang Mai : Graduate School, Chiang Mai Universityen_US
dc.titleA study of the association of southeast Asian nations as network governanceen_US
dc.title.alternativeงานศึกษาสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในรูปแบบการบริหารจัดการองค์การเชิงเครือข่ายen_US
dc.typeThesis-
thailis.controlvocab.lcshASEAN-
thailis.controlvocab.lcshAssociations, institutions, etc.-
thailis.controlvocab.lcshInstitutional cooperation-
thailis.controlvocab.lcshRegionalism-
thailis.controlvocab.lcshPerformance-
thesis.degreedoctoralen_US
thesis.description.thaiAbstractงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างทางเลือกโครงสร้างการบริหารจัดการในรูปแบบของเครือข่าย ในการพิจารณาบรรทัดฐานและหลักการ (ปัจจัยสนับสนุน) ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และประเมินการกำหนดนโยบายและผลการปฏิบัติงาน ทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกระแสหลักและทฤษฎีตะวันตกได้มองข้ามปัจจัยสนับสนุนเหล่านี้ไปบางส่วน และระบุว่าอาเซียนล้มเหลว ทฤษฎีเหล่านี้ซึ่งขับเคลื่อนโดยสหภาพยุโรปในฐานะต้นแบบการบูรณาการในระดับภูมิภาค มักจะละเลยเหตุผลสำหรับการจัดตั้งสถาบันแบบหลวม ๆ ของอาเซียน โดยกำหนดให้วิวัฒนาการของสถาบันเป็นแนวทางการแก้ไขปัญหาของอาเซียน ดังนั้น วิทยานิพนธ์นี้จึงพยายามทำให้ทฤษฎีตะวันตกเกี่ยวกับอาเซียนกระจ่างขึ้น ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่าอาเซียนเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลที่มีความผสมผสาน ใช้งานได้และชอบด้วยกฎหมาย โดยมีการบริหารจัดการในรูปแบบของเครือข่ายเป็นหัวใจสำคัญของการกำหนดนโยบายและโครงสร้างระดับชั้นส่วนหน้าด้วยวิถีทางที่แตกต่างสำหรับการบูรณาการในระดับภูมิภาค การวิเคราะห์เชิงคุณภาพถูกดำเนินการผ่านการสัมภาษณ์และแบบสอบถามที่มีโครงสร้าง เพื่อตรวจสอบกรณีศึกษาหนึ่งกรณีจากแต่ละด้านของประชาคมอาเซียนทั้งสามด้าน ทฤษฎีเครือข่ายนโยบายถูกใช้ในการวิเคราะห์และประเมินผล โดยข้อค้นพบที่สำคัญของวิทยานิพนธ์นี้ คือ ศูนย์กลางการดำเนินงานของอาเซียนมีการบริหารจัดการในรูปแบบของเครือข่าย ในขณะที่อาเซียนส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ การเมือง และความมั่นคงของภูมิภาค ซึ่งจุดประสงค์หลัก คือ เพื่อปกป้องความเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ความยืดหยุ่นของภูมิภาค และบทบาทของอาเซียนในฐานะตัวแทนที่ซื่อสัตย์ในกิจการระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ ในทำนองเดียวกัน ในประชาคมเศรษฐกิจและวัฒนธรรม วัตถุประสงค์ขยายออกไปนอกเหนือจากการสร้างความมั่งคั่งและตอบสนองความต้องการของสังคมตามลำดับ เพื่อปกป้องวัตถุประสงค์หลักและส่งเสริมการพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างรัฐสมาชิก สิ่งเหล่านี้ทำให้อาเซียนมีความสำคัญในฐานะจุดศูนย์กลางของเอเชียแปซิฟิกสำหรับเหล่ามหาอำนาจและประเทศเพื่อนบ้าน ในส่วนของบทบาทที่ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐมีในการบูรณาการระดับภูมิภาคนั้น บทบาทของตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐมีความโดดเด่นมากขึ้นในประชาคมเศรษฐกิจและสังคมวัฒนธรรม และมีบทบาทน้อยกว่าในประชาคมการเมืองความมั่นคงซึ่งตัวแสดงที่เป็นรัฐมีบทบาทสำคัญ อย่างไรก็ตาม ตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐยังคงสามารถมีบทบาทในด้านการเมืองและความมั่นคงที่เฉพาะเจาะจงได้ แต่ทว่า บทบาทของตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐที่ถูกจำกัดโดยอาเซียน ทำให้ขัดขวางศักยภาพการมีส่วนร่วมในการบูรณาการระดับภูมิภาคของตัวแสดงเหล่านี้ หากตัวแสดงที่ไม่ใช่รัฐเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นจะเป็นการเปิดโอกาสสำหรับผลลัพธ์เชิงนโยบายที่มีพลวัต โดยมีเงื่อนไขว่ามีการบรรจบกันในวาระการประชุมและลดความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างตัวแสดงที่เป็นรัฐและไม่ใช่รัฐ วิทยานิพนธ์นี้สรุปได้ว่า ลักษณะแบบผสมผสาน ปัจจัยสนับสนุน (บรรทัดฐานและหลักการ) และรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแสดงทั้งหมด จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาเมื่อประเมินการกำหนดนโยบายของอาเซียน เพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงานของสมาคมที่เหมาะสมและมีวัตถุประสงค์มากขึ้นen_US
thesis.concealPublish (Not conceal)en_US
Appears in Collections:SPP: Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
MR. PUSHPANATHAN SUNDRAM 622555801.pdfPhD (Public Policy) Dissertation3.18 MBAdobe PDFView/Open


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.