Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/73814
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorDanaitun Pongpatcharatrontep-
dc.contributor.advisorPitipong Yodmongkol-
dc.contributor.authorCao Linxiaen_US
dc.date.accessioned2022-08-09T11:02:10Z-
dc.date.available2022-08-09T11:02:10Z-
dc.date.issued2020-10-
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/73814-
dc.description.abstractWith the development of living standards, people pay increasing attention on health. Thailand’s spa industry has attracted many people with its reasonable prices and highquality services. In particular, Thai massage (a type of spa) requires more professional skills. Through interviews, this study identifies three specific problems. Firstly, the training of Thai massage is usually conducted through conversation, in which teachers can do the same teaching, but in different positions. Secondly, even though the trainees have received training, they may still have the problem of how to do a good Thai massage. Thirdly, the trainees after the training lack suitable self-study materials to review. On the basis of the research review, three objectives are proposed. Firstly, to transform the tacit knowledge of Thai massage into explicit knowledge. Secondly, to establish a standard explicit knowledge system of Thai massage by applying engineering concept of work study. Finally, to create Thai massage training manuals for foreign students. In order to achieve the first objective, the study conduct structured interviews to collect data and employ content analysis to analyze the interviews. For the second objective, the study convened experts for group discussions, analyze the movements of Thai massage, and use time study to calculate the standard time. For the realization of the third objective, the study formed a training guideli ne based on the data collected and analyzed from work and study, including exercise instructions, standard time and pictures. The guideline provides both Chinese and English versions for foreign students. The key findings are shown in the research, including movements, standard time and pictures recorded in the work study. On this basis, a guideline for Thai massage is formed. This study contributes to develop guidelines for Thai massage for training schools. Trainers can use the guideline as teaching materials, and trainees learning Thai massage can get review materials.en_US
dc.language.isoenen_US
dc.publisherเชียงใหม่ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleDevelopment of Standard Manual for Facial Massage Training Using Work Study Methoden_US
dc.title.alternativeการพัฒนาคู่มือมาตรฐานอบรมการนวดหน้าโดยใช้วิธีการศึกษาการทำงานen_US
dc.typeThesis
thailis.controlvocab.thashKnowledge management-
thailis.controlvocab.thashMassage -- Handbooks, manuals, etc.-
thailis.controlvocab.thashSpa business-
thesis.degreemasteren_US
thesis.description.thaiAbstractด้วยการพัฒนามาตรฐานการดำรงชีวิตของผู้คนที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น อุตสาหกรรม ธุรกิจสปาของประเทศไทยจึงดึงดูดผู้คนจำนวนมากให้สนใจใช้บริการ เพราะราคาที่สมเหตุสมผล และบริการที่ดี มีคุณภาพสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนวดแผนไทย (สปาประเภทหนึ่ง) ซึ่งต้องใช้ทักษะ ทางวิชาชีพมากกว่าสปาทั่วไป จากการสัมภาษณ์การศึกษานี้ พบปัญหาสำคัญ 3 ประการ คือ ประการแรกการฝึกนวดแผนไทยมัก ดำเนินการผ่านการบอกเล่าซึ่งครูสามารถพูดเหมือนกัน แต่นวดในตำแหน่งที่ต่างกันได้ ประการที่สอง แม้ว่าผู้เรียนจะได้รับการฝึกอบรม แต่พวกเขาอาจยังมีปัญหาในการนวดแผนไทยให้ถูกต้องเชี่ยวชาญ และประการที่สาม หลังการฝึกอบรม ผู้เรียนขาดสื่อการเรียนรู้ด้วยตนเองสำหรับทบทวนที่เหมาะสม บนพื้นฐานของศึกษาครั้งนี้ การวิจัยมีการเสนอวัตถุประสงค์ 3 ประการ ประการแรก เพื่อ เปลี่ยนความรู้โดยการบอกเล่าของการนวดแผนไทยให้เป็นความรู้ที่มีเนื้อหาชัดเจนและแน่นอน ประการที่สอง เพื่อสร้างมาตรฐานความรู้ที่ชัดเจนของการนวดแผนไทยอย่างเป็นระบบ โดยใช้ แนวคิดในการบริหารจัดการความรู้ในการทำงาน ประการสุดท้าย จัดทำคู่มืออบรมการนวดแผนไทย สาหรับนักเรียนต่างชาติ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์แรก การศึกษาครั้งนี้ ได้วางโครงสร้างการสัมภาษณ์อย่างเป็นระบบ เพื่อรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์เนื้อหาที่ได้รับจากการสัมภาษณ์ สำหรับวัตถุประสงค์ประการที่สอง การศึกษาครั้งนี้ ได้ใช้ผู้เชี่ยวชาญเพอื่ ทำการสัมภาษณ์แบบเป็นกลุ่ม วิเคราะห์ความเคลื่อนไหวของการ นวดแผนไทย และศึกษาเรื่องระยะเวลาเพื่อคำนวณเวลามาตรฐาน เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่สาม การศึกษาครั้งนี้ ได้กำหนดแนวทางการเรียนการสอนนวดไทยจากข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์ได้ รวมถึงคำแนะนำในการออกกำลังกาย เวลามาตรฐานที่เหมาะสม และรูปภาพ โดยคู่มือแนวทางการ นวดไทยนี้มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนต่างชาติ สิ่งสำคัญซึ่งค้นพบจากการวิจัยครั้งนี้ รวมถึงลักษณะการเคลื่อนไหวของการนวดไทย เวลา มาตรฐานที่ควรใช้ และรูปภาพ ที่บันทึกไว้ระหว่างทำการศึกษาวิจัย ซึ่งจะทำให้ได้คู่มือแนวทางการ เรียนการสอนนวดไทยที่ถูกต้อง ชัดเจน และแน่นอน โดยแนวทางนี้ สามารถนำไปใช้ทำเรียนการสอนในโรงเรียนสอนนวดไทย ครูผู้สอนสามารถ ใช้เป็นแนวทางในการสอน และผู้เรียนก็สามารถใช้ในการศึกษาทบทวนด้วยตนเองได้เช่นกันen_US
Appears in Collections:CAMT: Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
582131012 CAO LINXIA.pdf3.79 MBAdobe PDFView/Open    Request a copy


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.