Please use this identifier to cite or link to this item: http://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/65112
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorมนศักดิ์ มหิงษ์en_US
dc.contributor.authorอำนาจ เย็นสบายen_US
dc.date.accessioned2019-05-07T10:02:41Z-
dc.date.available2019-05-07T10:02:41Z-
dc.date.issued2558en_US
dc.identifier.issn1906-0572en_US
dc.identifier.urihttps://www.tci-thaijo.org/index.php/fineartsJournal/article/view/77251/62001en_US
dc.identifier.urihttp://cmuir.cmu.ac.th/jspui/handle/6653943832/65112-
dc.descriptionวารสารวิจิตรศิลป์ ตีพิมพ์บทความวิจัยหรือบทความงานสร้างสรรค์ทางด้านศิลปกรรม และบทความวิชาการทางด้านศิลปกรรมศาสตร์ เป็นบทความที่เสนอองค์ความรู้ แนวคิด วิธีการ และกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาต่างๆ ทางด้านศิลปกรรมศาสตร์ (การวิจัยงานศิลปะ การออกแบบ ประยุกต์ศิลป์ ดนตรี การแสดง สื่อศิลปะ ปรัชญาศิลป์ สุนทรียศาสตร์ ประวัติศาสตร์ศิลปะ และโบราณคดี)en_US
dc.description.abstractการศึกษาจะเข้ในบริบทสังคมไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์เครื่องดนตรีจะเข้ในการดำรงอยู่กับสังคมไทย และศึกษากรรมวิธีและกระบวนการประดิษฐ์จะเข้ในประเทศไทย โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการศึกษาจากเอกสาร (Documentary Research) การเก็บข้อมูลภาคสนาม (Field Study) ในช่วง พ.ศ.2551-2557 การสังเกตแบบมีส่วนร่วม (Participant Observation) การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informant Interview) และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูล เพื่ออธิบายการเปลี่ยนแปลงรูปแบบ บริบท และความเชื่อเกี่ยวกับจะเข้ที่สัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ การเมืองการศึกษา และวัฒนธรรม จากการศึกษาข้อมูลกรรมวิธีการประดิษฐ์จะเข้ของช่างทำจะเข้ จำนวน 9 แหล่ง พบว่ามีแนวคิดและหลักการสร้างที่แตกต่างกัน โดยที่ช่างทำจะเข้จะได้รับอิทธิพลจากนักดีดจะเข้ในการสร้าง และเกิดความนิยมต่อนักดีดจะเข้ในระดับปัจเจกมากขึ้น ซึ่งในยุคปัจจุบันจะเข้ได้มีพัฒนาการด้านรูปแบบ เพื่อเกิดการดำรงอยู่ของช่างทำจะเข้ ซึ่งเกิดจากการผลิตด้วยกรรมวิธีประดิษฐ์แบบโบราณสู่การใช้เทคโนโลยีผลิตเพื่อการตลาด และพบว่าสัดส่วนของจะเข้ในสังคมไทยมีการสร้างอยู่ 10 ขนาด ขนาดเล็กมีความกว้าง 21 เซนติเมตร และขนาดใหญ่ความกว้าง 30 เซนติเมตร ขนาดที่เป็นที่นิยม คือ ความกว้าง 26-28 เซนติเมตร โดยยุคแรกจะเข้นิยมมีกระพุ้งเป็นทรงใบมะยม แต่ปัจจุบันนิยมกระพุ้งทรงใบขนุน ส่วนวัสดุที่สร้างเป็นไม้วงศ์ขนุน (Artocarpus) ร่วมกับไม้วงศ์อื่นๆ ที่หลากหลาย โดยช่างหาสัดส่วนของจะเข้จากประสบการณ์ และมีการปรับเปลี่ยนวัสดุเพื่อสร้างกลยุทธการขายเพื่อการดำรงอยู่ของช่างen_US
dc.languageThaen_US
dc.publisherคณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่en_US
dc.titleจะเข้ในบริบทสังคมไทยen_US
dc.title.alternativeJa-Khay : Context of Thai societyen_US
dc.typeบทความวารสารen_US
article.title.sourcetitleวารสารวิจิตรศิลป์en_US
article.volume6en_US
article.stream.affiliationsนิสิตปริญญาเอก สาขาวิชาศิลปวัฒนธรรมวิจัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒen_US
article.stream.affiliationsรองศาสตราจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปวัฒนธรรมวิจัย คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒen_US
Appears in Collections:CMUL: Journal Articles

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in CMUIR are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.